7 วิธีดูแลดอกไม้ให้สดนาน ทำได้ง่ายที่บ้าน

ดอกไม้สดคือของขวัญจากธรรมชาติที่ช่วยเติมเต็มความรู้สึกและบรรยากาศภายในบ้านให้น่ารื่นรมย์ยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ดอกไม้สดย่อมมีอายุจำกัดตามธรรมชาติ หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ก็อาจเหี่ยวเฉาหรือร่วงโรยได้ในเวลาเพียงไม่กี่วัน เพื่อช่วยให้คุณสามารถยืดอายุของดอกไม้ให้อยู่ได้นานยิ่งขึ้น เราขอแนะนำ 7 วิธีง่าย ๆ ในการดูแลรักษาดอกไม้สด ซึ่งสามารถทำได้เองที่บ้าน โดยไม่ต้องใช้วัสดุหรืออุปกรณ์ที่ซับซ้อน

1. ตัดก้านดอกไม้ใหม่ก่อนปักแจกัน

ก่อนนำดอกไม้ไปจัดลงแจกัน ควรตัดก้านใหม่ทุกครั้ง โดยการตัดก้านจะใช้กรรไกรหรือมีดคม ๆ ตัดเฉียงประมาณ 45 องศา ความยาว 1–2 นิ้ว เพื่อเปิดพื้นที่ให้ก้านดูดซึมน้ำได้มากขึ้น และหากเป็นไปได้ แนะนำให้ตัดขณะก้านอยู่ใต้น้ำเพื่อป้องกันอากาศเข้าไปอุดตันภายในก้านซึ่งจะขัดขวางการดูดน้ำ ทำให้ดอกไม้เหี่ยวเร็วขึ้น หากเป็นดอกไม้ก้านอ่อน เช่น กุหลาบหรือดอกลิลลี่ ควรใช้กรรไกรหรือมีดคมอย่างระมัดระวัง และเลี่ยงการบีบหรือกดก้านแรง ๆ

2. ล้างแจกันและเปลี่ยนน้ำเป็นประจำ

แจกันที่ไม่สะอาดหรือมีคราบเก่า ๆ มักเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรีย ซึ่งสามารถแพร่กระจายสู่ก้านดอกไม้ได้โดยตรง แนะนำให้ล้างแจกันให้สะอาดก่อนใช้งาน และเปลี่ยนน้ำใหม่ทุกวัน เพื่อรักษาความสะอาดและลดการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ น้ำที่ใช้ควรเป็นน้ำสะอาด อุณหภูมิห้องหรือน้ำอุ่นเล็กน้อย และหากสังเกตเห็นคราบในแจกัน ควรใช้แปรงขัดเบา ๆ พร้อมสบู่หรือน้ำยาล้างจานเพื่อทำความสะอาดเพิ่มเติม

3. เลือกแจกันที่เหมาะกับชนิดของดอกไม้

แจกันที่เหมาะสมควรมีขนาดพอดีกับจำนวนดอก ไม่ควรเบียดกันแน่นเกินไป เพราะอาจทำให้กลีบหรือก้านช้ำจนเน่าเสียเร็ว หากจัดดอกไม้หลากหลายชนิดรวมกัน ควรดูว่าแต่ละชนิดต้องการระดับน้ำต่างกันหรือไม่ เช่น ดอกไม้ก้านแข็งอย่างทานตะวันอาจต้องการน้ำมากกว่ากุหลาบ แจกันปากกว้างจะช่วยให้ดอกไม้กระจายตัวได้ดี ไม่กดทับกัน และยังง่ายต่อการเปลี่ยนน้ำหรือตัดแต่งก้านในภายหลัง

4. เด็ดใบที่แช่น้ำออก

ใบที่อยู่ใต้น้ำจะเน่าได้ง่ายและส่งผลให้เกิดแบคทีเรียในแจกันอย่างรวดเร็ว จึงควรเด็ดใบที่ต่ำกว่าระดับน้ำออกให้หมดก่อนจัดดอกไม้ในแจกัน โดยไม่ต้องตัดใบที่อยู่เหนือระดับน้ำ เพราะใบช่วยในการคายน้ำและสังเคราะห์แสง ทำให้ดอกไม้สดใสนานขึ้น

5. หลีกเลี่ยงแสงแดดและความร้อนโดยตรง

แจกันดอกไม้ควรตั้งไว้ในบริเวณที่เย็น อากาศถ่ายเทได้ดี และไม่มีแสงแดดส่องถึงโดยตรง เพราะความร้อนจะเร่งกระบวนการคายน้ำ ทำให้ดอกไม้แห้งและเหี่ยวเร็ว นอกจากนี้ยังควรหลีกเลี่ยงการวางแจกันไว้ใกล้แหล่งความร้อน เช่น เตาไมโครเวฟ ทีวี หรือหน้าต่างที่มีแสงแรง รวมถึงไม่ควรวางใกล้ผลไม้ที่สุก เพราะผลไม้จะปล่อยก๊าซเอทิลีนที่เร่งการเหี่ยวเฉาของดอกไม้

6. เพิ่มสารช่วยยืดอายุดอกไม้

หลายคนอาจไม่รู้ว่า อาหารดอกไม้ (Flower Food) เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญที่ทำให้ดอกไม้ของคุณ สดสวยได้นานกว่าที่คิดไม่ใช่แค่ “เติมน้ำ” เท่านั้น แต่การใส่อาหารดอกไม้ในแจกัน ก็เหมือนกับการเติมพลังงานให้ดอกไม้ยังยิ้มได้ในทุกวัน

หากไม่มีอาหารดอกไม้ (flower food) ที่มักมากับช่อดอกไม้ ก็สามารถประยุกต์ใช้วัตถุดิบจากในบ้านได้ แนะนำให้ใช้สูตรใดสูตรหนึ่งเท่านั้น และทดลองก่อนในปริมาณเล็กน้อย เพื่อดูผลลัพธ์ก่อนใช้อย่างต่อเนื่อง เช่น :

• เติมน้ำตาล 1 ช้อนชา + น้ำส้มสายชู 1 ช้อนชาในน้ำ 1 ลิตร เพื่อเพิ่มพลังงานให้ดอกไม้และช่วยฆ่าเชื้อ

• ใส่น้ำอัดลมใส (เช่น สไปร์ท) 1/4 ถ้วยผสมน้ำ เพื่อเพิ่มน้ำตาลและกรดซิตริกที่ช่วยลดแบคทีเรีย

• บดแอสไพริน 1-2 เม็ดใส่ลงในน้ำ ช่วยยืดอายุการบาน

  

7. ตัดแต่งส่วนที่เหี่ยวทันที

หากพบว่าดอกไม้บางดอกเริ่มเฉาหรือใบเน่า ควรรีบตัดแต่งออกโดยเร็ว เพราะดอกที่เน่าจะปล่อยก๊าซเอทิลีนและเร่งการเหี่ยวของดอกอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้กัน การดูแลแจกันให้สะอาดอยู่เสมอคือหัวใจของการรักษาความสดของช่อดอกไม้ให้อยู่ได้นานที่สุด

ดอกไม้ที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่ ไม่เพียงแต่จะดูสวยงามได้นานขึ้น แต่ยังช่วยสร้างบรรยากาศที่สดชื่นให้กับบ้านและจิตใจของผู้พบเห็นได้อีกด้วย ลองนำวิธีเหล่านี้ไปใช้กับแจกันในบ้านของคุณ แล้วจะพบว่าความสดใสของดอกไม้นั้นสามารถยืดออกไปได้อีกหลายวันเลยทีเดียว

หากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการดูแลดอกไม้ หรือกำลังมองหาดอกไม้คุณภาพดี พร้อมบริการให้คำแนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญ Ivy & Pollen ยินดีให้คำปรึกษาและดูแลทุกความต้องการของคุณเสมอค่ะ